DMT คาดรัฐฯเปิดประมูลทางด่วน 3 โปรเจคยักษ์ภายในปีนี้พร้อมยื่นประมูล มั่นใจมีความพร้อม 100% ทั้งการเงิน-เทคโนโลยีเก็บค่าผ่านทาง

DMT คาดรัฐฯเปิดประมูลทางด่วน 3 โปรเจคยักษ์ภายในปีนี้พร้อมยื่นประมูล มั่นใจมีความพร้อม 100% ทั้งการเงิน-เทคโนโลยีเก็บค่าผ่านทาง

DMT คาดภาครัฐเปิดประมูลทางด่วน 3 โครงการยักษ์ มูลค่ากว่า 1.02 แสนล้านบาทภายในปีนี้ ผู้บริหารมั่นใจมีความพร้อม 100% ทั้งด้านการเงิน และความชำนาญทางเทคโนโลยีการจัดเก็บค่าผ่าน พร้อมคาดแนวโน้มปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางในครึ่งปีหลังพุ่ง 40% จากช่วงครึ่งปีแรก หลังเปิดเรียน Onsite การท่องเที่ยวฟื้น ลั่นรายได้ค่าผ่านทางปีนี้เข้าเป้าโต 50% แตะ 1.9 พันล้านบาท

นายธานินทร์ พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT)  เปิดเผยว่า คาดการณ์ภาครัฐมีแผนจะประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุนทางด่วน 3 สายทาง มูลค่ารวม 102,443 ล้านบาท ภายในปีนี้ คือ  1.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กิโลเมตร มูลค่า 39,956 ล้านบาท 2.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 กิโลเมตร มูลค่า 48,310 ล้านบาท 3.โครงการทางพิเศษ สายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 4 กิโลเมตร มูลค่า 14,670 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯมีความพร้อมในทุกด้านเป็นอย่างมากสำหรับการเข้าร่วมประมูลงานทั้ง 3 โครงการ ทั้งในด้านการเงินที่มีศักยภาพในการระดมทุน ด้านการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและมีการยกระดับคุณภาพของบุคลากรในทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับงานการบริหารทางด่วน รวมทั้งความชำนาญทางเทคโนโลยีการจัดเก็บค่าผ่านทางและความปลอดภัยที่ทันสมัยและได้มาตรฐานเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯได้ติดตามความคืบหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบันอยู่ในกระบวนการของภาครัฐตามข้อกำหนด พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ DMT กล่าวว่า บริษัทฯ คาดการณ์แนวโน้มปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางในครึ่งปีหลังน่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้น 40% จากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการเปิดภาคเรียน Onsite และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยในเดือนสิงหาคม แนวโน้มปริมาณการจราจรของทางยกระดับดอนเมืองเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่กว่า 90,000 คันต่อวัน เทียบจากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 74,000 คันต่อวัน

ทั้งนี้ มั่นใจว่าแผนการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.2 ล้านบาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/65 บริษัทฯ มีรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 423.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 171.60 ล้านบาท หรือ 69% จากปริมาณจราจรบนทางยกระดับที่เพิ่มขึ้น 65% ขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 187.99 ล้านบาท หรือ 158% เนื่องมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานลดลง มีกำไรสุทธิ 186.23 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 123.08 ล้านบาท หรือ195% เนื่องมาจากในไตรมาส 2 ปีนี้ ไม่มีภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2565 อยู่ที่ 0.07 เท่า

ข่าวเกี่ยวข้อง